
เคล็ด(ไม่)ลับ ให้ลูกมีความสุขกับการกิน(ผัก)
เป็นประสบการณ์ที่ตัวเราเองเรียนรู้ไปกับลูก กับการให้เค้ามีความสุขกับการกิน ตอนนี้น้องจ๊ะจ๋าอายุจะ 2 ขวบ เพื่อนๆหลายคนที่มีลูก จะสอบถามส่วนตัวว่าทำอย่างไร ลูกกินผักได้เก่งขนาดนี้ เราก็จะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้จ้า
จ๊ะจ๋า กินนมแม่ แบบกินจากเต้า ไม่เอาขวด จนตอนนี้ก็ยังกินอยู่
ช่วง 6 เดือนแรกทานนมแม่ล้วนๆจ้า ไม่มีน้ำเปล่า น้ำผลไม้อะไรเลย ดังนั้นช่วงนี้แม่บำรุงอะไร ส่งผ่านน้ำนมถึงลูกจ้า
ข้อ 1: หลังจาก 6 เดือนแรก นมแม่ก็ยังเป็นอาหารหลัก จะเริ่มอาหารอื่นๆด้วย แต่เราศึกษาและเลือกที่จะใช้วิธีให้อาหารลูกด้วย BLW (Baby-Led weaning) คือ การให้ลูกกินอาหารแบบเดียวกับผู้ใหญ่ได้เลย โดยไม่ต้องป้อน ไม่ต้องเตรียมอาหารปั่น/บดสำหรับทารกโดยเฉพาะ…โอ้หลายคนตกใจ… เชื่อว่าหากแต่ละท่านศึกษาหาข้อมูลและเข้าใจวิธีอย่างถูกต้องไม่น่ากลัวอย่างที่คิดจ้า (สามารถศึกษาข้อมูลซึ่งมีหนังสือเขียนหลากหลาย หรือที่ FB : Baby-Led Weaning Thailand)
แน่นอนว่าตอนอายุเข้า 7 เดือน จ๊ะจ๋า จัดการกล้วยโดยไม่ขูด บด และเวลาเดินเล่นในสวน จะมีถั่วพูลอ่อนๆที่ยังไม่มีเมล็ดด้านในเป็นของทานเล่นเมื่อเธอคันเหงือก นอกจากนี้ก็มีแครอท มะละกอ ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ ฯลฯ
ข้อ 2 : ส่วนตัวเราเองทานข้าวไปพร้อมลูก ดังนั้นหากพ่อแม่อยากให้ลูกทานผัก พ่อแม่คือแบบอย่างด้วยนะจ๊ะ
ข้อ 3 : ไม่บังคับ สำคัญจ้า อยากให้เค้ามีความสุขกับการกิน ไม่ควรบังคับ เราเองยังไม่ชอบให้ใครบังคับเรา แน่นอน..เด็กคือมนุษย์ตัวน้อยๆที่ไม่ชอบให้ใครบังคับเช่นกัน หากถึงเวลากินข้าว เค้าไม่กิน ห่วงเล่น ปล่อยจ้า คือในความเป็นแม่เราเชื่อว่าห่วงว่าลูกจะหิว ลูกต้องกินอาหารให้ครบ เราก็เป็น แต่ลองค่ะเค้าหิวเค้าร้องหาเอง อิ่มครบ จบง่ายๆ (จัดอาหารให้ลูกอย่างไร (ลองศึกษาวิธีที่เขียน ข้อ 1)
ข้อ 4 : ดีที่เราอยู่ในที่ๆบรรดาแม่ๆแชร์ประสบการณ์ดีๆแก่กัน รวมถึง พี่โจน จันใดแบ่งปันวิธีเลี้ยงลูก เด็กเล็กๆ (ก่อน 2 ขวบ หรือยิ่งนานได้ยิ่งดี) อย่าเพิ่งให้ติดรสหวาน คืออะไร … อย่าเพิ่งให้ลูกได้ลิ้มรสขนมนานาชนิด น้ำหวาน ลูกอม ฯลฯ ซึ่งเราเข้าใจ ไม่ใช่แค่พ่อแม่เท่านั้น แต่สิ่งแวดล้อมด้วยบางทีเจอปู่ย่าตายาย ลูกพี่ลูกน้อง กินของพวกนี้ มันยาก จะให้ลูกรอดผ่านมาได้ ดังนั้นตราบใดที่อยู่กับเรา ไม่ คือ ไม่ แต่ต้องอธิบาย .. ใช่จ้าเด็กเล็กๆนี่แหละจ้า อธิบายค่ะ ไม่ต้องคิดแทนเค้าว่าเค้าจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ… อธิบายคือหน้าที่เรา และเราเองต้องดูด้วยว่าเราทานสิ่งเหล่านั้นเป็นแบบอย่างกับลูกหรือไม่ เพราะเมื่อไหร่ที่เด็กติดหวาน บอกได้ว่างานเข้าจ้า
ข้อ 5 : จ๊ะจ๋าได้เติบโตในสวน ที่มีทั้งผักและผลไม้ที่ปลูกทานเองในสวน เราจึงมั่นใจว่าปลอดภัยจากสารเคมีแน่นอน ซึ่งหลายท่านที่อยากให้ลูกทานผัก ผลไม้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าผักที่ซื้อมาจะปลอดภัยแค่ไหนใช่มั้ย แนะนำหากไม่ได้ปลูกเอง ควรซื้อผักผลไม้ทานตามฤดูกาล ย้ำ ผักผลไม้ที่ออกตามฤดูกาลนะจ๊ะ เพราะอะไรที่เกิดนอกฤดูแน่นอนทั้งยาทั้งปุ๋ยเคมีอัดกันเข้าไปจ้า
ที่กล่าวมานี้เท่าที่นึกได้นะจ๊ะ หากมีอะไรเพิ่มเติมจะมาแบ่งปันเพิ่มจ้า อย่าลืมนะจ๊ะ เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน พ่อแม่และคนที่เลี้ยงดูนี่แหละจะรู้จักเค้าดี เป็นกำลังใจให้จ้า

…ทุกวันนี้จ๊ะจ๋ากินผักหลายอย่าง ทั้งแบบสดๆ เช่น ผักกวางตุ้ง คะน้า ถั่วฝักยาว แครอท แตงกวา ใบมะกรูด หน่อไม้ ขมิ้น..ใช่จ้าขมิ้นสดๆกินแบบกินแครอทเลย พ่อแม่ก็นับถือลูกเลยจ้า กระเทียม ตะไคร้ ฯลฯ กระทั่งหญ้าเนเปียร์ที่วัวกิน เธอก็เอามาเคียวกิน แม่ก็มองดูก็แล้วแต่เอาที่ลูกสบายใจ และรอดูต่อไปว่าเมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ เธอยังชอบกินผักหรือไม่