Pinned Items
Recent Activities
-
Stream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
-
Post is under moderationStream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
-
Post is under moderationStream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
-
Stream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
-
Stream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
-
Stream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
-
มนุษย์มีความจำกัด 2 ส่วนคือด้านสติปัญญากับด้านร่างกาย เราทำความเข้าใจเรื่องนี้เพื่อจะไม่ไปบีบเค้นเขาเกินไปในสิ่งที่เขาไม่ได้หลักแหลมด้านสติปัญญาและทำไม่ได้เพราะแรงกายจำกัด
ผมเข้าใจเรื่องนี้ผ่านการทำงานร่วมกันกับภรรยา ผมเห็นเธอทำงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังขาดตกบกพร่องและเรียงลำดับงานและให้น้ำหนักกับสิ่งที่ต้องทำผิด
ผมจึงติงเธอไป แต่เธอก็พยายามอธิบายว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่บ้างและทำเต็มที่แล้ว เธอพยายามอธิบายอย่างละเอียด ผมรู้สึกสงสารขึ้นมาทันทีทำให้เกิดความคิดว่าผมไม่ควรยัดเยียดความเข้าใจให้โดยการตำหนิว่าเธอบกพร่องอะไรบ้างและสอนว่าควรทำอย่างไรเพราะเธอไม่สามารถเข้าใจได้
ยิ่งผมอธิบายมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้เกิดการทะเลาะกัน(ก่อนหน้านี้ผมทำแบบนั้นอยู่บ่อยๆ จนผมรู้สึกว่าทำไมเธอถึงดื้อ) อันที่จริงเธอไม่ได้ดื้อ เธอแค่ไม่เข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจจึง"ไม่รู้" ว่าจะต้องทำอย่างไรและไม่รู้สึกอยากจะทำตาม
เมื่อมองให้กว้างขึ้นถึงเรื่องอื่นๆ ทั้งเรื่องฝ่ายพระวิญญาณและเรื่องของโลกนี้ มนุษย์แต่ละคนมีกำลังความสามารถในการเข้าใจที่ไม่เท่ากันจริงๆ
ผู้เขียนหนังสือโรม บทที่ 15 ผมมีความเข้าใจเรื่องนี้ จึงเขียนเอาไว้ว่า
"ฝ่ายเราทั้งหลายที่มีกำลังมาก ควรจะอดใจทนในความเชื่อเคร่งในข้อหยุมๆ หยิมๆ ของคนที่มีกำลังน้อย, และไม่ควรกระทำตามชอบใจของตัวเอง(ฉบับ 1940)"
"พวกเราซึ่งมีความเชื่อเข้มแข็ง ควรจะอดทนต่อข้อบกพร่องของคนที่อ่อนแอ ไม่ควรทำอะไรตามความพอใจของตัวเอง(ฉบัยTHSV11)
เมื่อเข้าใจอย่างนี้แล้ว สิ่งที่เราไม่ควรทำคือการโกรธสำหรับความผิดพลาดของเขาที่เกิดจากความจำกัดและความไม่รู้
ผมเป็นคนที่มีของประทานการบริหารจัดการ ตอนที่ผมทำงานก่อสร้าง ผมส่งคนงานไปทำงาน เขาจะทำ 2 เดือนถึงจะเสร็จ ในขณะที่ผมจะทำแค่ 2 อาทิตย์ ตอนแรกๆ ผมโกรธเขามากที่ทำงานช้า แต่เมื่อผมเข้าไปตรวจงานและอยู่ด้วยกับเขาจริงๆ น้ำตาของผมเกือบที่จะปริออกมา ผมรู้สึกสงสารเอ็นดูพวกเขาจับหัวใจตอนทค่เห็นพวกเขาทำงานกัน พวกเขาตั้งใจทำงานไม่หยุด ทำตลอดแต่วิธีการและการเรียงลำดับงานก่อนหลัง อันไหนสำคัญเน้นก่อนหลังและการเตรียมความพร้อม และแพลนที่ดีคือสิ่งที่พวกเขายังขาดอยู่ ไม่เพียงแค่ผมหายโกรธแต่ผมได้เข้าใจและสงสาร้เขา
ผมคิดว่า ตอนที่พระเยซูลงมาในโลก พระเจ้าในสภาพเลือดและเนื้อ พระองค์มีความเมตตาสงสารคนจับหัวใจ ลึกยิ่งกว่าคำว่าสงสารคือ การสะเทือนจิตใจที่เห็นความจำกัดของพวกเขาถึงเพียงนั้น
มีตอนหนึ่งพระเยซูพูดว่า "ในที่สุดพวกท่านก็เข้าใจ(พระธรรมยอห์นบทท้าย)" เป็นเวลา 3 ปีที่พระองค์สั่งสอนพวกเขากว่าจะเข้าใจในบางเรื่องต้องใช้เวลาถึง 3 ปีเลยหรือ ?...
ใช่ ! ซึ่งบางคนอาจจะนานกว่านั้น หรือจนแก่จนตายบางทีก็อาจจะไม่เข้าใจเลย
เพราะองค์เห็นความจำกัดของมนุษย์ทั้งทางด้านความคิดและกำลังกาย(มีอีกตอนหนึ่ง พระเยซูพูดว่า จงเฝ้าระวังและอธิษฐาน จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริงแต่...กายยังอ่อนกำลัง
เกี่ยวกับความผิดพลาดของมนุษย์ทั้งหมดนี้ ...จึงสรุปได้ตามคำอธิษฐานของพระเยซูที่พูดเอาไว้ว่า "พระบิดา พระบิดา ขอทรงยกโทษให้พวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป"
ผู้หญิงยกของ กับผู้ชายยกของ กำลังของทั้งสองคนย่อมต่างกันฉันใด ความคิดของคนเราก็เช่นกัน ต่อให้เราเค้นเขาสักแค่ไหนเขาก็คิดได้เท่านั้น เหมือนกับผู้หญิง ที่ยกของได้น้ำหนักน้อยกว่าผู้ขายเพราะสรีระร่างกายที่ต่างกัน
หน้าที่ของเราผู้ชายไม่ใช่การดุด่าว่ากล่าว แต่คือการเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเหตุที่เขามีกำลังจำกัดในเรื่องเหล่านั้น
"พวกเราซึ่งมีความเชื่อเข้มแข็ง ควรจะอดทนต่อข้อบกพร่องของคนที่อ่อนแอ ไม่ควรทำอะไรตามความพอใจของตัวเอง(ฉบัยTHSV11)Post is under moderationStream item published successfully. Item will now be visible on your stream. -
คำพูดบางอย่าง แม้จะเป็นความจริง แต่ถ้าจะเป็นการสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้อื่นมากเกินไปสร้างผลเสียมากกว่าผลดี ก็จงเลือกที่จะรอคอยอีกหน่อยค่อยพูด เพราะพระเจ้าไม่ได้ให้เราต้องเจ็บปวดเกินกว่าที่เราจะทนได้อย่างไร เราก็ไม่ควรมีการกระทำและคำพูดที่ผู้อื่นเกินกว่าที่จะรับได้อย่างนั้น
ในระหว่างรอคอยที่จะพูดก็ให้อธิษฐานเผื่อเขาอยู่เสมอ เพราะจิตวิญาณมนุษย์ต้องการพระวิญาณของพระเจ้าในการช่วยเหลือให้เห็นความจริงเพื่อที่จะเข้าใจและยอมรับความจริงPost is under moderationStream item published successfully. Item will now be visible on your stream. -
ในเมื่อเราแต่ละคนต่างก็มีบาปที่ตัวเราเองเปลี่ยนยังไม่ได้ แม้จะพยายามและตั้งใจเปลี่ยนหลายครั้งแล้วก็ตาม ฉะนั้น ไม่ควรหรือที่จะผ่อนผันให้กับนิสัยบางอย่างในผู้อื่นที่เราไม่ชอบใจที่เขาก็ยังเปลี่ยนตัวของเขาเอง ไม่ได้เหมือนกัน
ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยทำปิดร้ายแรง เพราะความไม่รู้ คือ ไม่รู้จักพระเจ้าผู้ที่เราคสรยำเกรง และไม่รู้จักความจริงในพระวจนะ ฉะนั้น การที่คนอื่นเขายังทำผิด ก็เป็รเพราะเขายังไม่รู้จะกพระเจ้าและไม่เข้าใจพระวจนะ ไม่คสรหรือที่เราจะเมตตาเขา เหมือนอย่างที่เราร้องขอการอภันและเมตตาจากผู้ที่เราทำผิดต่อเขาPost is under moderationStream item published successfully. Item will now be visible on your stream. -
Post is under moderationStream item published successfully. Item will now be visible on your stream.
There are no activities here yet